Tuesday, August 16, 2016

ไมโครชิป เปิดตัวโซลูชั่นความปลอดภัยแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์ตัวแรกของอุตสาหกรรมที่รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT กับระบบคลาวด์ของ Amazon Web Services

          - ECC508 แบบพรีคอนฟิกจากไมโครชิป นำเสนอแนวทางที่ง่ายที่สุดในการเชื่อมต่อ IoT ซึ่งมีการพิสูจน์ตัวตนแบบสองทาง เข้ากับ AWS ได้อย่างปลอดภัย

          ไมโครชิป เทคโนโลยี อิงค์ (NASDAQ: MCHP) บริษัทชั้นนำผู้ให้บริการโซลูชั่นไมโครคอนโทรลเลอร์ สัญญาณผสม อนาล็อก และแฟลช-ไอพี ประกาศเปิดตัวโซลูชั่นความปลอดภัยแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์ตัวแรกของอุตสาหกรรมที่รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Internet of Things (IoT) กับบริการ Amazon Web Services IoT (AWS IoT) โดยไมโครชิปและ AWS ได้ร่วมมือกันพัฒนาโซลูชั่นครบวงจรนี้เพื่อช่วยให้อุปกรณ์ IoT ปฏิบัติตามโมเดลความปลอดภัย IoT ซึ่งมีการพิสูจน์ตัวตนแบบสองทางได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โซลูชั่นความปลอดภัยรุ่นใหม่จากไมโครชิปช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศในด้านความปลอดภัย ตั้งการประเมินไปจนถึงการผลิต เป็นโซลูชั่นที่มอบความปลอดภัยในขั้นสูง ทำให้ระบบห่วงโซ่อุปทานมีความคล่องตัว และนับเป็นวิธีเชื่อมต่อ AWS Cloud ที่รวดเร็วที่สุดวิธีหนึ่งในปัจจุบัน

         

          ปัจจุบัน ผู้ผลิตอุปกรณ์  IoT ที่เชื่อมต่อกับบริการ AWS IoT ต้องดำเนินขั้นตอนที่เฉพาะเจาะจงตามโมเดลความปลอดภัยขั้นสูง ลำดับแรก ผู้ผลิตจะต้องลงทะเบียนระบบรักษาความปลอดภัยของตนกับเซิร์ฟเวอร์ AWS ล่วงหน้าเพื่อสร้างทรัสต์โมเดล ต่อจากนั้นอุปกรณ์ IoT แต่ละตัวจะต้องสร้างกุญแจสำหรับเข้ารหัสข้อมูล ซึ่งเชื่อมต่อทางคณิตศาสตร์กับระบบรักษาความปลอดภัยที่ลงทะเบียนไว้ล่วงหน้า และสุดท้ายคือ จะต้องมีการรักษากุญแจเข้ารหัสของแต่ละอุปกรณ์ให้เป็นความลับ โดยกรณีที่มีการผลิตอุปกรณ์คราวละมากๆ การสร้างและดูแลความปลอดภัยของกุญแจลับเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่น่ากังวลในห่วงโซ่การผลิตซึ่งมีผู้ผลิตภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากผู้ผลิตเหล่านี้มีระดับความน่าเชื่อถือและการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่แตกต่างกัน

          โซลูชั่นความปลอดภัยแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์ของไมโครชิปสามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้ใน 3 ขั้นตอน โดยขั้นแรก ชุดอุปกรณ์ AT88CKECC จะช่วยให้ลูกค้าทำตามมาตรฐานความปลอดภัยของโมเดลการพิสูจน์ตัวตนแบบสองทาง และช่วยเรื่องการเชื่อมต่อแพลตฟอร์ม AWS IoT ในช่วงของการประเมินและวิศวกรรม ขั้นที่สอง อุปกรณ์ AWS-ECC508 จะช่วยในเรื่องการทำตามมาตรฐานความปลอดภัยในขั้นตอนผลิตต้นแบบและก่อนการผลิต และขั้นสุดท้าย อุปกรณ์ต่างๆ จะได้รับการปรับแต่งในขั้นตอนการผลิตเพื่อรับรองความปลอดภัยของข้อมูลเมื่อลูกค้าใช้งาน

          ลูกค้าสามารถบัดกรีอุปกรณ์บนแผงวงจร และเชื่อมต่ออุปกรณ์ในแบบ I2C กับโฮสต์ไมโครคอนโทรลเลอร์ (MCU) ซึ่งรัน AWS Software Development Kit (SDK) โดยใช้ ECC508 ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับ AWS IoT เมื่อขั้นตอนนี้เสร็จสมบูรณ์ การเข้าระบบพิสูจนส์ตัวตนไม่จำเป็นจะต้องดึงข้อมูลกุญแจลับและการรับรองในระหว่างขั้นตอนการผลิตอุปกรณ์ เนื่องจาก AWS-ECC508 ได้รับการปรับตั้งค่าล่วงหน้าเพื่อให้ AWS รู้จักทันทีโดยที่ไม่โดนแทรกแซง โดยข้อมูลทั้งหมดถูกบรรจุอยู่ในอุปกรณ์ crypto companion ขนาดเล็ก (3x2 มม.) ซึ่งนำมาประยุกต์ใช้งานง่าย

          โดยปกติแล้ว อุปกรณ์ AWS และ ECC508 จะสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทั้งยังมีความสามารถที่ครอบคลุมในการรักษาความปลอดภัยด้วยการพิสูจน์ตัวตนแบบสอง อุปกรณ์ดังกล่าวมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและความเสียหายเชิงกายภาพ ซึ่งรวมถึงการป้องกันการรุกล้ำจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ นอกจากนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวยังนำเสนอการกำหนดตัวเลขแบบสุ่มที่มีคุณภาพสูง การสร้างกุญแจลับที่ไม่ซ้ำกันและมีความปลอดภัยได้เอง และการอำนวยความสะดวกด้านกระบวนการผลิตที่หลากหลายได้อย่างคุ้มทุน อุปกรณ์ IoT โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยไมโครคอนโทรลเลอร์แบบ 8 บิตขนาดเล็ก ใช้พลังงานจากแบตเตอรี และมีทรัพยากรที่จำกัด เช่น หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) เพื่อให้มีความหน่วงในการตอบรับต่ำ ตลอดจนมีหน่วยความจำและพื้นที่ในการเขียนโค้ดไม่มาก รวมไปถึงพื้นที่สำหรับโปรโตคอลการรักษาความปลอดภัย และการกำหนดการใช้พลังงานเพื่อเพิ่มระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี ด้วยเหตุนี้ อุปกรณ์ ECC508 จึงมีระบบเพิ่มความเร็วในการเข้ารหัสของโปรเซสเซอร์ที่ใช้พลังงานต่ำเพื่อให้สอดคล้องกับอุปกรณ์ IoT ที่มีทรัพยากรกำจัดได้อย่างหลากหลาย

          "เราเข้าใจถึงความซับซ้อนของการติดตั้งระบบการพิสูจน์ตัวตนแบบสองทางของ AWS ในไมโครคอนโทรลเลอร์" นูริ แด็กเดวิเรน รองประธานและผู้จัดการทั่วไปกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยของ แอทเมล ซึ่งเป็นบริษัทลูกของไมโครชิป กล่าว "ลูกค้าจำเป็นต้องมีความเข้าใจในเรื่องการติดตั้งซอฟต์แวร์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นอุปสรรคที่สำคัญ เรามีความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับ AWS และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับผู้ให้บริการคลาวด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในการสร้างโซลูชัน ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถเชื่อมต่อกับ AWS Cloud ได้ง่ายและปลอดภัย"

          "เรามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับไมโครชิป และรู้สึกตื่นเต้นที่สามารถนำเสนอโซลูชันระดับเวิลด์คลาสให้แก่ทุกคนที่ต้องการใช้งานโซลูชัน IoT ที่ปลอดภัยบนบริการคลาวด์ของเรา" มาร์โค อาร์เจนติ รองประธานฝ่ายอุปกรณ์เคลื่อนที่และ IoT ของ Amazon Web Services, Inc. กล่าว "การนำแนวทางปฎิบัติที่เป็นเลิศมาใช้ในการรักษาความปลอดภัย ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายร่วมกับทุกบริษัทที่เราทำงานด้วย เพื่อนำเสนอแพลตฟอร์ม IoT ที่ดีและมีความปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เราเชื่อว่าโซลูชันใหม่นี้จะเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายและประหยัดต้นทุนมากที่สุดสำหรับลูกค้าของเราในการทำตามแนวทางปฎิบัติที่เป็นเลิศในด้านความปลอดภัย"

          สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันการรักษาความปลอดภัยแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์ของไมโครชิปสำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ AWS Cloud ได้ที่:www.atmel.com/tools/at88ckecc-aws-xstk.aspx

          การวางจำหน่าย

          ชุดอุปกรณ์ AWS-ECC508 (หมายเลขชิ้นส่วน# AT88CKECC-AWS-XSTK) มีจำหน่ายแล้ววันนี้

          AWS-ECC508 (หมายเลขชิ้นส่วน# ATECC508A-MAHAW-S และ ATECC508A-SSHAW-T) วางจำหน่ายในแพ็คเกจ UDFN และ SOIC แล้ววันนี้ สำหรับการขอตัวอย่างและการสั่งผลิตในปริมาณตั้งแต่ 10,000 ยูนิตขึ้นไป

          รับชมข้อมูลเพิ่มเติม หรือซื้อชุดอุปกรณ์ได้ที่ www.atmel.com/tools/at88ckecc-aws-xstk.aspx และสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ระบุถึงในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ โดยติดต่อพันธมิตรจัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของไมโครชิป

          ติดตามไมโครชิปได้ที่

          - RSS Feed สำหรับข่าวผลิตภัณฑ์ของไมโครชิป: www.microchip.com/RSS/recent-PRProduct.xml
          - ทวิตเตอร์: twitter.com/microchiptech
          - เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/microchiptechnology
          - ยูทูบ: www.youtube.com/user/microchiptechnology

          เกี่ยวกับ แอทเมล

          แอทเมล เป็นบริษัทลูกของไมโครชิป เทคโนโลยี อิงค์ (NASDAQ: MCHP)

          เกี่ยวกับไมโครชิป เทคโนโลยี

          ไมโครชิป เทคโนโลยี อิงค์ (NASDAQ: MCHP) เป็นผู้นำด้านการจัดหาโซลูชั่นไมโครคอนโทรลเลอร์ ตลอดจนโซลูชั่นอนาล็อกสัญญาณผสม และแฟลช-ไอพี ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนรวมของทั้งระบบ และร่นระยะเวลาในการนำเสนอแอปพลิเคชั่นหลายพันรายการสำหรับลูกค้าในตลาดทั่วโลก สำนักงานใหญ่ของไมโครชิปตั้งอยู่ที่เมืองแชนด์เลอร์ รัฐแอริโซนา บริษัทนำเสนอการสนับสนุนด้านเทคนิคที่เป็นเลิศพร้อมกับการขนส่งและคุณภาพที่เชื่อถือได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ของไมโครชิปที่www.microchip.com

          หมายเหตุ: ชื่อและโลโก้ Microchip โลโก้ Microchip รวมทั้งชื่อและโลโก้ Atmel เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริษัท ไมโครชิป เทคโนโลยี อินคอร์ปอเรทเต็ด ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ส่วนเครื่องหมายการค้าอื่นๆ ทั้งหมดที่ระบุถึงในข่าวฉบับนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทที่เป็นเจ้าของ

          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ :
          Daphne Yuen (Microchip):
          โทร : (+852) 2943-5115
          อีเมล : daphne.yuen@microchip.com

          Janico Fok (LEWIS):
          โทร : (+852) 3944-5024
          อีเมล : janico.fok@teamlewis.com

          รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20160812/8521605063

No comments:

Post a Comment