Tuesday, May 2, 2017

Emaar Hospitality Group คิดค้นโมเดลการทำสัญญาบริหารจัดการโรงแรมแบบใหม่ เพื่อขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับเจ้าของ





          บริษัทเอมาร์ ฮอสพิทอลิตี้ กรุ๊ป (Emaar Hospitality Group) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมและสันทนาการในเครือของเอมาร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ พีเจเอสซี (Emaar Properties PJSC) ได้นำเสนอโมเดลใหม่ในอุตสาหกรรมเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการทำสัญญาบริหารจัดการโรงแรม

          โมเดลใหม่นี้แตกต่างจากโมเดลค่าตอบแทนแบบเดิมที่ธุรกิจโรงแรมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยที่ผ่านมานั้น ผู้ดำเนินงานให้กับโรงแรมจะได้รับค่าบริการพื้นฐานคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากรายได้รวม และค่าบริการอินเซนทีฟโดยคำนวณจากผลกำไรโดยรวมจากการดำเนินงาน

          แต่โมเดลทางเลือกใหม่ของเอมาร์ ฮอสพิทอลิตี้ กรุ๊ป จะคำนวณโดยอิงจากค่าบริการอินเซนทีฟเท่านั้น ซึ่งขับเคลื่อนโดยความสามารถในการสร้างผลกำไรของผู้ดำเนินงาน มากกว่าให้ความสำคัญกับรายได้

          สำหรับอุตสาหกรรมโรงแรมทั่วไปนั้น ผู้ดำเนินงานจะได้รับค่าบริการโดยคำนวณจากรายได้รวมเป็นส่วนใหญ่ แต่โมเดลใหม่จะปรับเปลี่ยนแนวคิดโดยให้เจ้าของโรงแรมและผู้ดำเนินงานหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างผลกำไรมากขึ้น

          Oliver Harnisch ซีอีโอของเอมาร์ ฮอสพิทอลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า โมเดลค่าตอบแทนการบริหารจัดการรูปแบบใหม่นี้ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมโรงแรม "ผู้ดำเนินงานจะรับบทบาทหน้าที่ในการขับเคลื่อนผลกำไรเพื่อสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับเจ้าของโรงแรม แตกต่างจากโมเดลเดิม ซึ่งผู้ดำเนินงานให้กับโรงแรมจะได้รับค่าตอบแทนการบริหารจัดการพื้นฐานโดยไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน

          "โครงสร้างการกระจายรายได้ของอุตสาหกรรมโรงแรมได้เปลี่ยนแปลงไปมาก และเรารู้สึกว่า ผลกำไรคือตัวชี้วัดทรงพลังที่สามารถวัดผลการดำเนินงานได้ดีกว่ารายได้รวม เรานำประสบการณ์ที่สั่งสมมา 10 ปีในฐานะเจ้าของและผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมที่ได้พัฒนาและดำเนินงานแบรนด์โรงแรมระดับชั้นนำ 3 แห่ง ในการพัฒนาโมเดลใหม่นี้ ดังนั้นเราจึงเข้าใจการดำเนินงานให้กับโรงแรมเป็นอย่างดี" Harnisch กล่าว

          "โมเดลใหม่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของโรงแรมกับผู้ดำเนินงาน โดยมอบหน้าที่ความรับผิดชอบให้แก่ผู้ดำเนินงานเพิ่มขึ้นในการขับเคลื่อนผลกำไรให้กับโรงแรม ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนให้แก่เจ้าของโรงแรมอีกด้วย ถึงแม้ในยามที่ต้องเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจที่ท้าทาย ผู้ดำเนินงานก็จะต้องให้ความสำคัญกับการลดค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินงานให้มากที่สุดเพื่อสร้างผลกำไรให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง" Harnisch กล่าว

          เอมาร์ ฮอสพิทอลิตี้ กรุ๊ป ได้ลงนามในสัญญาบริหารจัดการหลายฉบับ เพื่อดำเนินงานให้กับโรงแรมของนักพัฒนาและเจ้าของโรงแรมต่างๆ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย บาห์เรน ตุรกี และอียิปต์ โดยโมเดลใหม่นี้เป็นการต่อยอดโมเดลมาตรฐานเดิม เพื่อให้เจ้าของโรงแรมมีโอกาสเลือกใช้ได้ตามอัธยาศัย

          เอมาร์ ฮอสพิทอลิตี้ กรุ๊ป แตกต่างจากบริษัทผู้ดำเนินงานให้กับโรงแรมระดับนานาชาติรายอื่นๆ ที่มองข้ามทรัพย์สินของพวกเขาและหันไปใส่ใจกับสัญญาการบริหารจัดการโรงแรมมากกว่า โดยทางบริษัทกำลังพัฒนาความเชี่ยวชาญในด้านสัญญาการบริหารจัดการ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งในด้านการพัฒนาโรงแรมรวม 26 โครงการ

No comments:

Post a Comment