บรรดาประเทศที่มีศักยภาพทางการแข่งขันสูงต่างขับเคี่ยวกันเพื่อเป็นผู้นำในรายงาน IMD World Competitiveness Yearbook ประจำปี 2017 ซึ่งเป็นการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่างๆทั่วโลก โดยในปีนี้ สหรัฐอเมริกาถูกเบียดหลุดออกจากตำแหน่งท็อป 3
ฮ่องกงยังคงรั้งตำแหน่งประเทศที่มีความสามารถทางการแข่งขันสูงที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของ IMD World Competitiveness Center [ http://www.imd.org/wcc/world-competitiveness-center ] เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์และสิงคโปร์ตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ ส่วนสหรัฐฯตกจากอันดับ 3 ในปีที่แล้ว ลงมาอยู่ที่ 4 ซึ่งถือเป็นอันดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ขณะที่เนเธอร์แลนด์ไต่จากอันดับที่ 8 ในปีที่แล้ว ขึ้นมาติดท็อป 5 ในปีนี้
IMD World Competitiveness Center ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยของโรงเรียนธุรกิจ IMD [ http://www.imd.org ] ในสวิตเซอร์แลนด์ ได้จัดทำรายงานดังกล่าวเป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา โดยการใช้ดัชนีชี้วัด 260 ตัว สำหรับปีนี้มี 63 ประเทศที่ได้รับการจัดอันดับ โดยเพิ่มไซปรัสและซาอุดิอาระเบียเข้ามาในรายชื่อเป็นครั้งแรก
ศาสตราจารย์อาร์ทูโร บริส ผู้อำนวยการศูนย์ IMD World Competitiveness Center กล่าวว่า ผลการชี้วัดที่โดดเด่นในกลุ่มประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นนั้น มาจากศักยภาพของภาครัฐและภาคธุรกิจ รวมถึงความสามารถในการผลิตด้วย
"ประเทศเหล่านี้ยังคงรักษาสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับธุรกิจ ซึ่งช่วยส่งเสริมการเปิดกว้างและความสามารถในการผลิต" เขากล่าวเสริม "หากคุณมองไปที่จีน ซึ่งไต่ 7 อันดับขึ้นมาอยู่ที่ 18 นั้น จะพบว่า จีนมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับศักยภาพของภาครัฐและภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง"
ขณะที่อันดับท้ายๆของตารางนั้น เป็นกลุ่มประเทศที่มีปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจรุมเร้าเป็นส่วนใหญ่
เปิดตัวรายงานการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัล
ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ศูนย์ IMD World Competitiveness Center ได้จัดทำรายงานการจัดอันดับความสามารถทางการแข่งขันด้านดิจิทัลขึ้นโดยเฉพาะ โดยรายงาน Digital Competitiveness Ranking ใหม่นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวัดความสามารถของประเทศต่างๆ ในด้านการปรับตัวและคิดค้นเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปฏิรูปการดำเนินงานของภาครัฐ โมเดลธุรกิจ และสังคมโดยรวม
สิงคโปร์ถูกยกเป็นอันดับ 1 ในรายงานฉบับนี้ ตามมาด้วยสวีเดน สหรัฐอเมริกา ฟินแลนด์ และเดนมาร์ก "การสนับสนุนจากภาครัฐจะช่วยส่งเสริมการคิดค้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างไม่ต้องสงสัย" บริสกล่าว
"สิงคโปร์และสวีเดนได้พัฒนากฎเกณฑ์ที่สร้างความได้เปรียบในการรักษาบุคลากรระดับหัวกะทิเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น การออกกฎหมายที่ดึงดูดผู้มีพรสวรรค์จากต่างประเทศให้หลั่งไหลเข้าประเทศ ขณะที่สหรัฐฯได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นในด้านวิทยาศาสตร์และการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ โดยในอดีตที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ให้การสนับสนุนการคิดค้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า การที่รัฐบาลมุ่งส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้นั้น จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลให้กับประเทศเหล่านั้น
เกี่ยวกับ IMD
IMD เป็นโรงเรียนธุรกิจชั้นนำของโลก โดยมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาผู้นำ ปฏิรูปองค์กร รวมถึงสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างรวดเร็วและมีคุณประโยชน์ในระยะยาว IMD มีสำนักงานอยู่ในเมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และประเทศสิงคโปร์ http://www.imd.org
No comments:
Post a Comment