นอกจากนี้ การแสดง "Light Up 2018" ยังได้รับการบันทึกจากกินเนส เวิลด์ เร็คคอร์ด ว่าเป็น "การแสดงแสงสีเสียงบนอาคารเดี่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" โดยจัดแสดงบนตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ ซึ่งมีพื้นผิวขนาด 109,252 ตารางเมตร หรือมากกว่าสถิติเดิมถึงสองเท่า
โมฮาเหม็ด อาลับบาร์ ประธานบริษัท Emaar Properties กล่าวว่า "ความเป็นผู้นำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ทั่วโลกผ่านความสำเร็จนานัปการ พร้อมกับเปิดโอกาสให้ผู้คนและภาคธุรกิจได้เจริญเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ การแสดง "Light Up 2018" ถือเป็นการเชิดชู เฉลิมฉลองความสำเร็จ และผลักดันให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดดเด่นบนเวทีโลกในฐานะศูนย์กลางของการสร้างแรงบันดาลใจ"
การแสดง "Light Up 2018" มีการติดตั้งหลอดไฟ เครื่องยิงลำแสง และอุปกรณ์ต่างๆ น้ำหนักรวมกว่า 118.44 ตัน และใช้สายไฟยาวถึง 28.7 กิโลเมตร เพื่อเปลี่ยนใจกลางมหานครดูไบให้กลายเป็นจุดที่สว่างไสวที่สุดจุดหนึ่งในโลก ด้วยความสว่างถึง 76.3 ล้านลูเมน นอกจากนั้นยังมีการยิงแสงเลเซอร์ที่ปลอดภัยต่อสายตาของมนุษย์ ทั้งยังมีการติดตั้งหลอด LED ประหยัดพลังงานโดยใช้เชือกยาว 25.3 กิโลเมตร และอุปกรณ์ติดตั้งพิเศษที่ทำจากเหล็กซึ่งมีน้ำหนักถึง 20 ตัน
เครื่องยิงเลเซอร์กลางแจ้งกว่า 40 เครื่อง เครื่องยิงไฟซีนอน 230 เครื่อง และเครื่องยิงลำแสง 280 เครื่อง ได้ถูกติดตั้งเพื่อการแสดงครั้งนี้ พร้อมสร้างสถิติการติดตั้งเครื่องยิงเลเซอร์และเครื่องยิงไฟซีนอนที่ระดับความสูงมากที่สุดในโลก นั่นคือ 828 เมตร ซึ่งเท่ากับความสูงของตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ สำหรับการติดตั้งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญกว่า 300 คน ซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการโรยตัว 100 คนจากทั่วโลก ซึ่งทุกคนเดินทางรวมกันกว่า 1 ล้านกิโลเมตรเพื่อมาปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้
แสงเลเซอร์อันทรงพลังและจอ LED 1.1 ล้านพิกเซลบนตึกบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์มีชีวิตชีวาขึ้นมาด้วยลวดลายและแพทเทิร์นมากมายที่ฉายผ่านจอ ทั้งแสงเลเซอร์ ลำแสง รวมถึงโชว์น้ำพุ ต่างอุทิศให้กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และดูไบ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่การฉายภาพเพื่อเชิดชูท่านชีค ซายิด บิน สุลต่าน อัล นาห์ยัน ผู้ก่อตั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องใน "Year of Zayed" ในปี 2018 นอกจากนั้นยังมีการแสดงพลุไฟลักษณะเหมือนนกเหยี่ยวทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า รวมถึงการแสดงภาพ Dubai Creek Tower ซึ่งเป็นโปรเจคใหม่ของ Emaar ที่กำลังจะผุดขึ้นบริเวณ Dubai Creek Harbour
No comments:
Post a Comment