มูลนิธิโลคัส เชน (Locus Chain Foundation) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ได้ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีบล็อกเชนรุ่นที่ 4 และนับเป็นครั้งแรกของโลกที่เทคโนโลยีนี้จะทำให้การทำธุรกรรมที่ปลอดภัยแบบต้นทางจนถึงปลายทาง (end-to-end) เสร็จสมบูรณ์ได้ภายในเวลาไม่ถึงสองวินาที ไม่ว่าอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์จะมีความเร็วเท่าใดก็ตาม
มูลนิธิโลคัส เชน บริหารโดยคุณซัง ยูน ลี ตำนานแห่งวงการเกมจากเกาหลีใต้
มูลนิธิแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นแรงขับเคลื่อนในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับระบบนิเวศทางการเงินโลกระบบใหม่ โดยได้รับความสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์คร่ำหวอดอยู่ในวงการมานานกว่า 20 ปี
มูลนิธิโลคัส เชน กำลังขยายเทคโนโลยีเพื่อมอบเครื่องมือและบริการต่าง ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความสามารถของผู้รับทุนในการระดมทุนเพื่อการกุศล การพัฒนาทรัพยากร การระดมทุนจากคนหมู่มาก รวมถึงการเข้าถึงผู้บริจาคและฐานข้อมูลของมูลนิธิ ผ่านแพลตฟอร์มทางเทคนิคของมูลนิธิ
ซัง ยูน ลี ประธานและซีอีโอของโลคัส เชน กล่าวว่า "เราภูมิใจมากที่ได้เปิดตัวเทคโนโลยีบล็อกเชนรุ่นที่ 4 ซึ่งมีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยสำหรับการเข้าถึงและการทำธุรกรรมโดยป้อนข้อมูลไบโอเมตริก เรากำลังนำเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเคยดูเหมือนห่างไกลมากจากโลกแห่งความจริง มาใช้ในชีวิตจริง และพัฒนาให้เป็นเทคโนโลยีที่ใคร ๆ ก็สามารถใช้ได้ ทีมงานของเราประกอบไปด้วยผู้ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยี การเงิน ธุรกิจ และด้านมนุษยธรรม ซึ่งเป็นการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์"
ทางมูลนิธิได้ประกาศจัดตั้งกลไกการระดมทุน ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนรุ่นที่ 4 เพื่อช่วยให้ผู้รับประโยชน์สามารถรับเงินทุนได้โดยตรงในรูปแบบของทรัพย์สินดิจิทัล นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่แผนริเริ่มขนาดใหญ่เช่นนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชน
หลังจากที่สามารถระดมเงินทุนได้เป็นจำนวนมากแล้ว มูลนิธิได้ลงนามเป็นพันธมิตรร่วมกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลก โดยมูลนิธิจะร่วมมือกับบรรดาพันธมิตรในการนำกลไกการระดมทุนดังกล่าวมาใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการ
คึน ยัง คิม ผู้ก่อตั้งมูลนิธิโลคัส เชน กล่าวว่า "น้อยคนมากที่เต็มใจแบกรับความเสี่ยงในฐานะผู้ให้ทุนเบื้องต้น พวกเขาต่างต้องการการลงทุนที่ปลอดภัย อย่างไรก็ดี มูลนิธิโลคัส เชน เชื่อว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะยกระดับการตระหนักรู้ของผู้นำรุ่นใหม่เหล่านี้ ตลอดจนบริการและโครงการต่าง ๆ ของพวกเขา และสิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นให้คนอื่น ๆ หันมาให้การสนับสนุนเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นการสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดขึ้นในชุมชน"
"เราเชื่อว่าเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือของเรานั้น มีความโปร่งใส มีระบบตรวจสอบย้อนกลับได้ และมีการเชื่อมต่อที่ราบรื่น ซึ่งถือเป็นส่วนประกอบพื้นฐานที่สำคัญที่ทำให้เราสามารถยกระดับประชาชน พร้อมทั้งดูแลใส่ใจชนรุ่นหลังของเรา โดยไม่ต้องคำนึงถึงขอบเขตด้านภูมิศาสตร์" เขากล่าว
No comments:
Post a Comment