เมื่อวันที่ 21-23 ตุลาคมที่ผ่านมา การประชุมสุดยอดผู้ประกอบธุรกิจมาเก๊า-จูไห่ และการประชุมว่าด้วยการสื่อสารระหว่างประเทศภายใต้โครงการเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 ได้จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติจูไห่ ในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน โดยดึงดูดนักธุรกิจและนักการเมืองหลายพันคน รวมถึงสื่อกระแสหลักจากประเทศต่างๆ ในโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ทั้งนี้ เมืองจูไห่มีสถานะที่แข็งแกร่งในเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ดังนั้น ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติจูไห่ของบริษัท Huafa Group ซึ่งเป็นเวทีนำเสนอภาพลักษณ์ของเมืองจูไห่และเป็นพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจ จะได้รับโอกาสอีกมากมายในอนาคต
ปี 2562 เป็นปีแรกที่มีการประกาศแผนการพัฒนาเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าอย่างเป็นทางการ และเป็นปีที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติจูไห่มีอายุครบห้าปี หลังจากเปิดทำการมาเป็นเวลาห้าปี ศูนย์ฯ แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นสถานที่รับรองแขกบ้านแขกเมือง ทั้งยังเป็นสถานที่จัดงานสำคัญของเมืองจูไห่และเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า จนถึงปัจจุบัน ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติจูไห่รองรับการจัดมหกรรมแสดงสินค้ากว่า 140 งาน การประชุมกว่า 3,600 งาน และงานจัดเลี้ยงกว่า 2,000 งาน โดยมีผู้จัดงานและแขกรวมกันเกือบ 4 ล้านคน ทางศูนย์ฯ ได้จัดกิจกรรมของแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Wal-Mart, Adidas, Volkswagen, Mercedes-Benz ฯลฯ รวมถึงกิจกรรมและการประชุมของภาครัฐ เช่น การประชุมสุดยอดการลงทุนจีน-อิสราเอล, การประชุมสุดยอดเอาท์ซอร์สโลก, การประชุมสุดยอดธุรกิจจีน-กลุ่มประเทศลาตินอเมริกาและแคริบเบียน ครั้งที่ 12, งานสัปดาห์การออกแบบนานาชาติเมืองจูไห่ และการประชุมว่าด้วยการสื่อสารระหว่างประเทศจีน (กวางตุ้ง) ภายใต้โครงการเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21
หลังจากเปิดสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า เมืองจูไห่กลายเป็นเมืองเดียวที่เชื่อมกับฮ่องกงและมาเก๊าทางบก ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติจูไห่ตั้งเป้าพัฒนาอุตสาหกรรมรวมถึงดึงดูดมหกรรมจัดแสดงสินค้าและการประชุมขนาดใหญ่ทั้งในจีนและต่างประเทศมาสู่เมืองจูไห่ ด้วยการลงนามข้อตกลงเชิงยุทธศาสตร์ว่าด้วยเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิทรรศการสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ร่วมกับ AsiaWorld-Expo และบริษัทอื่นๆในปีนี้ ความพยายามเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการจัดกิจกรรมต่างๆ การแบ่งปันทรัพยากร และการนำเสนอโครงการระดับนานาชาติระหว่างทั้งสามเมืองในอนาคต ทั้งนี้ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติจูไห่จะเปิดรับโอกาสในการจัดกิจกรรมระดับนานาชาติให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการประชุมและนิทรรศการในเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าต่อไป
No comments:
Post a Comment